ไพ่ใบที่ 20 " Judgement "

 มาแล้วค่ะกับความหมายของไพ่ใบที่ 20 " Judgement"  ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้มาอัพบล็อคเลย ปล่อยว่างมานานเป็นอาทิตย์ๆ เพราะงานประจำมันรัดตัวจริงๆ อ่ะค่ะ พอวันหยุดว่าจะเขียนบล็อคซะหน่อยก็ดันมาป่วยไม่สบายอีก อ๊ะ! แต่ตอนนี้แอนมีพลังกลับมาเขียนความหมายของไพ่กันต่อแล้วล่ะค่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่านะคะ จะได้ไม่เสียเวลา :)

                Judgement หรือที่แอนเรียกว่าไพ่ " กรรมกำหนด " นั้นเป็นไพ่ที่มีพลังของดาวพลูโตแฝงอยู่ และเป็นไพ่ที่เป็นตัวแทนของธาตุไฟด้วย ตรงนี้มีผลทำให้ผู้ที่มีไพ่ใบนี้เป็นไพ่ประจำตัวนั้นมีนิสัยและตัวตนประมาณว่า เป็นคนที่มีความกระตือรือร้น ว่องไว ปากกับใจตรงกัน โผงผาง ถ้าโมโหแล้วน่ากลัวทีเดียวเชียวค่ะ บางทีก็ดูลึกลับเข้าใจยาก แต่แอนรู้สึกว่าเค้าน่าจะเป็นคนที่ชอบพูดคุย ชอบประกาศ และน่าจะเป็นคนที่มีซุ่มเสียงที่มีอำนาจดึงดูดให้คนทั่วไปที่ได้ยินเสียงของเค้านั้นหันมาสนใจสิ่งที่เค้าจะพูดอีกด้วยนะคะ

                ไพ่ใบนี้เท่าที่แอนเรียนรู้มาและเข้าใจ + กับความรู้สึกที่มีต่อหน้าไพ่และประสบการณ์ที่แอนเคยมีมานั้น ก็จะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ไม่คาดฝันต่างๆ ทั้งดีและไม่ดี ทำไมแอนถึงเขียนแบบนี้ เพราะว่าไพ่ใบนี้นั้นแอนเข้าใจว่าเป็นไพ่ " กรรมกำหนด " ถ้าไพ่ใบอื่นๆที่อยู่รอบๆไพ่ Judgement นี้เป็นไพ่ดี และไพ่ที่อยู่ติดกันก็ยังเป็นไพ่ดี ในความหมายของแอนหมายความว่า " กรรมดีจะส่งผล"
                 แต่ถ้าไพ่ใบอื่นที่อยู่รอบๆไพ่ใบนี้ และไพ่ที่อยู่ติดกันเป็นไพ่ร้าย ให้ระวังไว้เลยค่ะว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดี ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับหน้าไพ่ทั้งหลายด้วยว่า ไอ้ที่ร้ายๆนั้นมันร้ายแรงอยู่ในขั้นไหน ถ้า 2 ดาบก็อุปสรรค์ขั้นต่ำ แต่ก็มีส่วนส่งเสริมให้ไพ่ใบนี้แรงขึ้นไปอีก
 และถ้าไพ่ใบอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ เป็นไพ่ที่ร้ายมากๆ ทั้งไพ่ใหญ่ร้ายๆ หรือ ไพ่เล็ก 10 ดาบ ตรงนี้ยิ่งทำให้สถานะการณ์ดูเลวร้ายหนักขึ้นไปอีก
                 แต่ถ้าถามความรู้สึกของแอนต่อไพ่ใบนี้ อีกด้านหนึ่ง แอนแอบระแวงอยู่ลึกๆและไม่ค่อยจะไว้ใจกับไพ่ใบนี้สักเท่าไหร่ ถึงแม้ไพ่ที่อยู่รอบๆจะดีเลิศประการใดก็ตาม แอนก็ยังแอบหวั่นๆอยู่ว่ามันต้องเกิดอะไรไม่ค่อยดีขึ้นก่อนแหงมๆ แล้วถึงมีคนมาช่วยทีหลัง และเวลาที่แอนเปิดได้ไพ่ใบนี้ขึ้นมาทีไร เป็นต้องรู้สึกหนาวๆร้อนๆ อย่างบอกไม่ถูก  เพราะแอนรู้สึกได้ว่าจะมีเหตุการณ์ที่คาดเดาได้ยากเกิดขึ้น  ตรงนี้แหล่ะที่มันน่ากลัว บางทีถึงแม้ว่าจะมีไพ่ดีๆอยู่ล้อมรอบ แต่ก็อาจไม่ได้หมายความว่า "กรรมดีจะส่งผล" อย่างเดียวนะคะ อาจจะร้ายก่อนแล้วมาดีทีหลัง ว๊าก ก
                 บรรดาไพ่ใหญ่ทั้งหลายแหล่ เท่าที่แอนเข้าใจนั้นและเรียนรู้มานั้น เค้าอธิบายว่าจะมีอิทธิพลต่อชีวิตค่อนข้างมาก เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต เป็นไพ่ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่ๆ สำคัญๆ ในชีวิตของเราตามหน้าไพ่ของไพ่ใหญ่ใบนั้นๆ ในหนังสือยังบอกอีกว่า ถ้าเราเปิดได้ไพ่ใหญ่เหล่านั้น ตัวเรามักจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ยาก หรือไม่ได้เลยล่ะค่ะ
                 แต่ตรงนี้แอนเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับไพ่ใหญ่ " Tower " หรือไพ่ " ตึกแตก" ที่หมายถึงการทะเลาะเบาะแว้ง อุบัติเหตุ เหตุการณ์ร้ายๆ ด้วยล่ะค่ะ
                 แอนจำได้ว่าแอนเปิดได้ไพ่ใบนี้ก่อนออกไปเที่ยวพักร้อนเมื่อปีที่แล้ว แอนไปเที่ยวกับแฟนน่ะค่ะ ตอนเปิดได้ไพ่ใบนี้ใจก็พลันคิดว่า " เอาแล้วแอนนา จะเจออะไรน่ากลัวๆมั้ยเนี่ย ในระหว่างท่องเที่ยวครั้งนี้น่ะ" แล้วไพ่ร้ายอีกใบหนึ่งก็คือไพ่ "4 ดาบ" แอนก็ทำนายรวมไปเลยว่าให้ระวังเหตุการณ์ทะเลาะเบาะแว้ง มีปากมีเสียง หรืออุบัติเหตุ รวมถึงให้ระวังสุขภาพด้วย โดยเฉพาะเกี่ยวกับกระดูกหลัง เจ็บหลัง
                  จำได้ว่าหลังจากนั้นไม่กี่วันแอนเจ็บหลัง (แม่นป่ะ ? ) และระหว่างท่องเที่ยวอยู่นั้น แอน+แฟน
เกือบทะเลาะกับคนรอบข้างด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง รวมแล้วเบ็ดเสร็จ 3 ครั้ง 3 เหตุการณ์ และต่างสถานที่และเวลากันด้วยล่ะค่ะ  ตอนนั้นแอนเกือบเอาตัวไม่รอดแล้วล่ะค่ะ คิดว่าต้องเปิดศึก ทะเลาะกันแน่ๆ แต่แปลก! ก่อนที่จะเหตุการณ์มันกำลังจะบานปลายใหญ่โตนั้น  แอนพลันนึกถึงหน้าไพ่ tower ใบนี้ได้ทุกครั้ง ตรงนี้แหล่ะที่ทำให้แอนพยายามหยุดยั้งอิทธิพลของไพ่ใบนี้ไม่ให้แสดงผลในทางที่ร้ายๆให้ได้ เรียกว่าเบรคสุดตัวเลยล่ะคะ
                 (ขอบอกว่าเกือบทำไม่สำเร็จ ตอนนั้นนอกจากแอนต้องพยายามห้ามใจตัวเองแล้ว ยังต้องมาห้ามแฟนแอนไม่ให้ทะเลาะอีกด้วย  โอย ย เหนื่อย  แต่ก็ผ่านพ้นมาได้ค่ะ )
                มาเข้าเรื่องไพ่ Judgement กันต่อดีกว่าค่ะ  ตรงนี้เลยต้องเน้นย้ำกันเล็กน้อยอีกครั้งว่าเมื่อเปิดได้ไพ่ใบนี้แล้วและดูรอบๆไพ่ใบอื่นๆก็เป็นไพ่ดี ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจว่าจะโชคดี 100 %  ระวังไว้บ้างก็ดีค่ะ ถึงแม้ว่าจะเตรียมตัว เตรียมการอะไรล่วงหน้าไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังมีเวลาเตรียมใจไว้รับกับเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้บ้างไม่มากก็น้อยล่ะค่ะ
               ทีนี้เรามาดูกันว่า ถ้าขึ้นไพ่ Judgement แล้วเราจะสามารถแก้ไขอะไรให้กับเจ้าดวงชะตากับปัญหาที่ยังมาไม่ถึง และเป็นปัญหาที่คาดเดาได้ยากกันได้บ้าง
               ตรงนี้แอนใช้วิธีดูไพ่ใบอื่นๆ ที่เป็นตำแหน่งช่วยเหลือเกื้อกูล ตำแหน่งที่พอจะช่วยเจ้าชะตาได้ในยามที่เจอเหตุการณ์คับขัน สมมุติว่าไพ่ Judgement ขึ้นในตำแหน่งที่ 2 แอนก็จะมาดูที่ตำแหน่งที่ 1,4,5,7,8 และตำแหน่งที่ 5,6 และตำแหน่งสุดท้ายคือตำแหน่งที่ 10 ( อ้าว ดูเกือบทุกใบเลยนี่หว่า แอนนา )   ค่ะแอนดูมันทุกใบแหล่ะ เพราะทุกๆตำแหน่งมีส่วนช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ทั้งนั้น แต่ต้องขึ้นกับปัญหาด้วยว่าเกี่ยวข้องกับอะไร บางตำแหน่งสิ่งที่จะมาเกื้อกูลนั้นอาจเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเทวดา เจ้าที่เจ้าทาง ( ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ 8 ค่ะ )
               ตำแหน่งที่ 7 เป็นตำแหน่งของปัญหา แต่บางทีไพ่ก็อาจบอกวิธีแก้ไขปัญหามาในตำแหน่งนี้ได้ด้วยเช่นกัน ฉะนั้นตรงนี้ต้องใช้เซ็นส์ในการอ่านไพ่ให้ดี และตริตรองดูให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะทำนายอะไรออกไปนะคะ ในตำแหน่งนี้แอนยังเห็นถึงความคิดของเจ้าชะตาต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เห็นถึงวิธีการที่เจ้าชะตาคิดจะจัดการกับปัญหาด้วย และในตำแหน่งที่ 7 และ 1 ยังบ่งบอกได้ถึงความรู้สึก และ สถานะการณ์ของเจ้าดวงชะตาขณะนั้นๆด้วยว่าสุขหรือทุกข์อย่างไร จิตใจและความรู้สึกของเค้าในระยะนั้นๆ ได้รับอิทธิพลของปัญหามามากหรือน้อย บางคนมีปัญหาหนักหนาสาหัสต่างๆนาๆ แต่ใบที่ 7 มีไพ่ The Fool ขึ้น ไพ่ใบนี้นอกจากจะเป็นไพ่แคล้วคลาดแล้ว ยังหมายถึงว่าเจ้าชะตาไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรไปกับปัญหาที่เผชิญอยู่ (ตรงนี้แอนมีประสบการณ์ค่ะ ตอนนั้นเจ้าดวงชะตามีปัญหาเรื่องการเงิน เรื่องหนี้สิน กูยืม ที่เป็นปัญหาอิรุงตุงนัง แต่เจ้าชะตาก็ยังยิ้มได้ ยังไม่รู้สึกทุกขร้อนไปกับปัญหาสักเท่าไหร่
                กับไพ่ The Fool ในตำแหน่งที่ 7 นี้ยังอาจหมายถึง เจ้าดวงชะตาหนีปัญหาไปพักผ่อนสมอง ไปคลายเครียด อาจไปท่องเที่ยวที่ไหนสักระยะ แล้วค่อยกลับมาลุยกับปัญหากันใหม่ก็ได้ค่ะ                   
                ตำแหน่งที่ 1 แอนให้เป็นตำแหน่งของ "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ทำไมแอนบอกแบบนี้? เพราะตำแหน่งนี้แสดงถึงความพร้อมทางด้านจิตใจ ความแข็งแกร่งของจิตวิญญานของเจ้าดวงชะตาว่ามีความพร้อม มีความแข็งแกร่งแค่ไหน พร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาได้แค่ไหน ตรงนี้ล่ะค่ะที่สำคัญที่สุด เพราะว่าถ้าเจ้าดวงชะตาได้ไพ่ที่แสดงถึงความกลัดกลุ้ม กระวนกระวาย หวาดกลัว ตรงนี้แอนคิดว่าวิธีการแก้ปัญหาที่อยู่ตรงหน้านั้นมันยากตั้งแต่ก้าวแรกแล้วล่ะค่ะ และจะทำให้ขบวนการแก้ปัญหาในขึ้นต่อๆไปนั้นยุ่งยากซับซ้อนขึ้นไปอีก ตัวอย่างเช่น เจ้าดวงชะตากลัวมาก กลุ้มมาก ฟุ้งซ่านจนเกิดไม่สบายขึ้นมา ไม่มีแรงมีพลังมาคิดจัดการกับปัญหาตรงหน้าได้ ตรงนี้ล่ะค่ะที่แอนคิดว่าสำคัญที่สุด เป็นก้าวแรกที่อาจบ่งบอกได้ว่าปัญหาในวันข้างหน้านั้นจะไปไนทิศทางใด
                 เขียนไปเขียนมา กำลังจะกลายเป็นว่าแอนกำลังเขียนเรื่องตำแหน่งของไพ่อยู่ (จริงๆแล้วตรงนี้แอนกะว่าจะเอาไว้เขียนในบทความต่อๆไป ) เอาเป็นว่าเราพอเรื่องตำแหน่งไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ไว้แอนค่อยมาเขียนในเรื่องตำแหน่งต่างๆ ให้ละเอียดและกระจ่างมากขึ้นในมุมมองของแอนกันต่อไปในวันข้างหน้า แล้วค่อยมาดูกันอีกที ว่าแอนจะให้ความหมายของไพ่ในตำแหน่งต่างๆกันอย่างไรบ้าง
                 สรุปว่าไพ่ใบนี้นั้นเป็นไพ่ที่มีอิทธิพลและส่งผลได้ทั้งในด้านดีและร้าย ( แต่แอนระแวงว่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า ) ซึ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ใหญ่ๆ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดต่างๆนาๆ อาจจะในทุกๆเรื่อง ตรงนี้แอนก็ขอให้นักอ่านไพ่ทุกๆท่าน อ่านไพ่ใบนี้อย่างเข้าใจ ดูให้ดีๆ  และดูไพ่ใบอื่นๆประกอบกันไปด้วยให้ถี่ถ้วน เมื่อแน่ใจแล้วค่อยทำนายออกไปนะคะ
                 วันนี้แอนคงต้องขอพักก่อนแล้วล่ะค่ะ ตาเริ่มลาย สมองเริ่มล้าอีกแล้วล่ะค่ะ คงต้องไปหาอะไรทานรองท้องแล้วล่ะค่ะ ไปก่อนนะคะ แล้วแอนจะกลับมาเขียนความหมายของไพ่ใบที่ 21 ใบสุดท้ายกันอีกไม่นานเกินรอนะคะ ไปล่ะค่ะ ฟิ้ววว ววว