เมื่อก่อนแอนจะไม่ค่อยเข้าใจเวลาที่ใครต่อใครก็พูดกันถึงแต่เรื่อง "ไพ่ทาโร่ต์จิตสัมผัส " หรือ "จิตของเราสัมผัสกับอะไรบางอย่างในไพ่" เมื่อก่อนแอนได้ยินได้ฟังแล้วรู้สึกว่ามันจะเข้าใจยากซะเหลือเกิน แอนมาเริ่มเข้าใจกระจ่างแจ้งมากขึ้นก็ต่อเมื่อมาค้นคว้า เรียนรู้และสัมผัสกับไพ่ยิปซีอย่างจริงๆจังๆด้วยตัวเองนี่เองล่ะค่ะ
จิตสัมผัสกับไพ่ทาโร่ต์ที่แอนกำลังจะกล่าวถึงนี้ก็คือการที่เรารู้จัก "สังเกตุ" ความรู้สึกของตัวเองต่อสิ่งที่เราเห็นในไพ่ใบที่เราหยิบได้ว่าเมื่อเราเห็นรายละเอียดต่างๆในไพ่แล้ว เรารู้สึกอย่างไร? อันดับแรกถ้าเราได้เคยศึกษาเรียนรู้และมีพื้นฐานเกี่ยวกับความหมายของไพ่ทาโร่ต์ใบต่างๆอยู่บ้างแล้ว เราก็คงจะรู้และเข้าใจความหมายของไพ่ใบนั้นๆได้อย่างทันทีทันใดตามที่เรารู้มาจากตำราใช่มั้ยคะ? ( แอนสมมุติว่าไพ่ใบนี้เป็นไพ่ดาบก็แล้วกันนะคะ )
แต่สิ่งที่แอนอยากจะให้สังเกตุหลังจากนั้นก็คือ เมื่อเราเห็นรายละเอียดในไพ่ใบนี้แล้ว จิตของเราไปสะดุดกับอะไรในไพ่บ้างมั้ย หรือว่าเห็นสิ่งต่างๆในไพ่แล้วก็ยังรู้สึกเฉยๆ รู้แต่ว่าไพ่ดาบคงหมายถึงปัญหาแต่เพียงอย่างเดียวแหงๆ อะไรประมาณนั้นหรือเปล่า?
แอนเชื่อว่าหลายๆคนทั้งที่มีประสบการณ์กับการอ่านไพ่หรือแม้แต่คนที่ไม่เคยเรียนรู้กับศาสตร์นี้มาก่อนเมื่อได้เห็นไพ่ใบต่างๆแล้วต้องรู้สึกสะดุดกับอะไรบางอย่างในไพ่กันบ้าง และผลจากการที่เรารู้สึกสะดุดใจต่อบางสิ่งบางอย่างที่เราเห็นในไพ่นั้น "จะทำให้เราได้รับรู้ความหมายใหม่ๆ สดๆร้อนๆ จากไพ่โดยตรง โดยที่ในตำราก็ไม่มีบอกไว้ และความหมายที่เราสื่อได้โดยตรงจากไพ่นั้นก็ยังถูกต้องอีกด้วย"
ตรงจุดนี้ล่ะค่ะที่แอนคิดว่าสำคัญมากๆกับการที่เรารู้จักจับความรู้สึกของตัวเองต่อสิ่งที่เห็นในไพ่ซึ่งทำให้เรารู้ความหมายใหม่ๆ จากไพ่ยิปซีที่แตกต่างไปจากความหมายเดิมๆบ้าง จากการที่เรารู้จักใช้เทคนิคจับความรู้สึกตรงนี้จะทำให้เราใช้ไพ่ยิปซีทำนายเรื่องราวต่างๆให้ออกมาได้อย่างหลากหลาย แม่นยำ และลึกซึ่งมากยิ่งขึ้น เหมือนเป็นการเพิ่มรสชาดให้กับการทำนายของเราให้ดูแปลกใหม่ และแตกต่างไปจากเดิมบ้าง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งความแม่นยำของการทำนายอย่างไม่ขาดตกบกพร่องอีกด้วย ซึ่งวิธีนี้เมื่อเราฝึกฝนบ่อยๆ ใช้บ่อยๆเข้า จะทำให้การอ่านคำทำนายไพ่ยิปซีของเรามีการพัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ และมีความแปลกใหม่, ประสบการณ์ใหม่ๆ จากไพ่เข้ามาให้เราแปลกใจกันอยู่เรื่อยๆเลยล่ะค่ะ
แอนจะยกตัวอย่างเกี่ยวกับจิตสัมผัสต่อไพ่ทาโร่ต์มาสัก 1- 2 ตัวอย่างจากประสบการณ์ของแอนเองเพื่อที่ทุกๆท่านจะได้เข้าใจในสิ่งที่แอนกำลังอธิบายนี้กันให้ลึกซึ่งมากยิ่งขึ้นนะคะ สมมุติว่าเราทำนายเรื่องเกี่ยวกับความรัก แล้วเราหยิบได้ไพ่ THE LOVERS ซึ่งพอเราเห็นแล้วเราจะรู้ และสัมผัสได้ถึงความหมายดั้งเดิมที่เราเรียนรู้มาจากตำราว่าไพ่ใบนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง รักๆใคร่ๆ ชู้สาว, รักสามเส้า
และภายในใจเราอาจจะนึกไปเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วว่าความรักครั้งนี้คงมีปัญหาอะไรเคลือบแคลงแอบแฝงอยู่แหงๆ เช่นคนรักปันใจให้คนอื่น หรือเรื่องชู้สาว ซึ่งตรงนี้ส่วนมากจะใช่ แต่ก็ไม่ทุกกรณีไปนะคะ เพราะไพ่ใบนี้เมื่อแอนเห็นหน้าไพ่แล้ว+ ดูเหตุการณ์โดยรวมจากไพ่ใบอื่นๆแล้ว ในบางกรณีมันอาจหมายถึงสภาวะอื่นๆที่นอกเหนือไปจากเรื่องของรักสามเส้า, ชู้สาวด้วยล่ะค่ะ เช่น บางครั้งแอนจะมองเห็นเป็นความรักแบบ"ความหลง" ของคนสองคน คือต่างคนต่างหลงไหลซึ่งกันและกัน อาจจะเป็นเพราะเพิ่งจีบกันใหม่ๆ ช่วงข้าวใหม่ปลามัน เพิ่งจะเริ่มคบกัน และความรักของเค้าทั้งสองก็ไม่ได้มีปัญหาชู้สาว หรือมือที่สามมือที่สี่เข้ามากวนใจด้วยนะคะ แต่ไพ่ THE LOVERS ใบนี้แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกของทั้งสองคนที่มีต่อกันในเรื่องของความรักอย่างดูดดื่มมากกว่า ตรงนี้ก็เหมือนเป็นคำทำนายในด้านที่ดีไป
ฉนั้น...เมื่อเราเห็นหน้าไพ่ใบนี้ (และไม่ว่าจะเป็นไพ่ใบไหนก็ตาม) และรู้ความหมายพื้นฐานของไพ่ใบนี้อยู่แล้วก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจและทำนายอะไรรวดเร็วเกินไปว่าเป็นเรื่องของรักสามเส้าแต่เพียงอย่างเดียวนะคะ เราต้องรู้จักใช้ความรู้สึกของเราดูไพ่ให้ดีๆ อย่าเคร่งเครียดเป็นอันขาดนะคะ ดูแบบสบายๆ ว่าเราเห็นหน้าไพ่แล้วเราสัมผัสอะไรจากไพ่? เห็นแล้วสะดุดกับสัญลักษณ์อะไรในไพ่บ้างมั้ย? เห็นแล้วมีอะไรที่มันทำให้เรารู้สึกว่ามันสอดคล้องกับคำถามมั้ย?
นอกจากเรื่องของความลุ่มหลงในตัวของกันและกันที่แอนเห็นในไพ่ Lovers ใบนี้แล้ว บางครั้งถ้าแอนถามไพ่เกี่ยวกับสถานะการณ์เรื่องของการงานที่เจ้าดวงชะตาทำอยู่ว่าจะเป็นอย่างไร จะสำเร็จมั้ย? แล้วไพ่ THE LOVERS นี้ไปตกอยู่ในตำแหน่งของเจ้าดวงชะตา แถมไพ่ที่ปิดท้ายยังเป็นไพ่ที่ไม่ค่อยดี ในกรณีนี้ไพ่ THE LOVERS ไพ่ใบนี้กำลังสื่อสารให้แอนรู้ว่าเจ้าตัว “ไม่มีความตั้งอกตั้งใจในงานที่ตัวเองทำอยู่ “เหมือนกับว่าทำๆไปอย่างนั้นแหล่ะ แต่ใจน่ะลอยไปที่อื่น มัวแต่คิดถึงเรื่องอื่นๆอยู่ เรียกว่าทำงานแบบใจลอย ไม่มีสติอยู่กับสิ่งที่ทำ ตรงนี้เลยทำให้งานของเจ้าตัวนั้นมีปัญหาในตอนท้ายๆ ซึ่งตรงกับไพ่ใบสุดท้ายที่เป็นไพ่ลบ
และถ้าในกรณีที่เราเห็นไพ่ใบหนึ่ง เราเข้าใจความหมายของไพ่ใบนั้นๆว่ามันจะต้องหมายความว่าอย่างนี้อย่างนั้นตามที่มีในตำรา แต่ความรู้สึกของเราบอกว่าไม่ไช่ มันน่าจะหมายถึงสภาวะอื่นๆมากกว่า ตรงนี้ก็ขอให้เลือกเชื่อ “ความรู้สึกของตัวเองเป็นที่ตั้ง” นะคะ อย่ายึดติดกับความหมายที่เราเรียนรู้มาจากตำราแต่เพียงอย่างเดียว เพราะความหมายที่เราอยู่ดีๆเกิดรู้สึกรับรู้ขึ้นมาใด้อย่างเฉียบพลันทันใดนั้น มันมาจาก “สัมผัสพิเศษเบื้องลึก” หรือที่แอนชอบเรียกว่า "เสียงพิเศษข้างใน " ที่น่าเชื่อถือซึ่งแอบซ่อนอยู่ในตัวของเราทุกคนเองล่ะค่ะ
สรุปสั้นๆอีกครั้งหนึ่งก็คือเมื่อเราดูไพ่แล้วก็ต้องรู้จัก “จับ”ความรู้สึกของเราให้ดีๆ แม่นๆ ว่าเรารู้สึกอย่างไรกับไพ่ สะดุดกับอะไรเป็นพิเศษมั้ย? บางคนเห็นไพ่ (สมมุติว่าเป็น Queen of wands ) แล้วไปสะดุดกับ สีหน้าของคนในไพ่ หรือไปสะดุดกับ แมวดำในไพ่ ยังผลทำให้เห็นความหมายใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับคำถามก็เป็นไปได้ อย่างนี้เป็นต้นค่ะ หรือบางทีจิตเราไปสะดุดกับดอกไม้, นกพิราบ, ผลไม้ เช่น พวงองุ่น และอื่นๆ ซึ่งทำให้จิตของเราสัมผัสได้ถึงความหมายใหม่ๆที่สอดคล้องกับสถานะการณ์ของเจ้าดวงชะตาก็เป็นไปได้อีกเหมือนกันค่ะ ฉนั้นเมื่อเราเห็นหน้าไพ่ยิปซีแต่ละใบๆแล้วก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรเร็วเกินไปนะคะ ดูให้แน่ใจเสียก่อน และต้องสำรวจ" สัมผัสจากใจตัวเอง" ต่อสิ่งที่เห็นให้ชัวร์ๆก่อนแล้วค่อยทำนายออกไปค่ะ / Anna J
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น